วันจันทร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ทานวิตามินเกินกำหนด ก่อให้เกิดโทษ

การทานวิตามินนั้นมีประโยชน์ แต่ถ้าทานมากจนเกิดกำหนดก็ก่อให้เกิดโทษต่อร่างกายด้วยเช่นกัน วันนี้มีความรู้เรื่องนี้มาฝากกัน...



วิตามินโดยทั่วไป หากทานมากเกินไป ไม่มีอันตราย ร่างกายจะขับออกมา แต่มีวิตามินบางชนิด หากได้รับมากเกินไป จะต้องได้รับสารอื่นพ่วงด้วย เช่น วิตามิน C หากได้รับมากเกินไปก็จะมีแร่ทองแดงพ่วงมาด้วยตัวอย่างวิตามิน A หากได้มากกว่า 25000 IU จะทำให้ปวดศรีษะ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร ผิวแห้ง คันและผมร่วง ตับม้ามจะโต ปวดกระดูกวิตามิน D หากได้มากเกิน 50000 IU จะทำให้เบื่ออาหาร คลื่นไส้ ท้องร่วง น้ำหนักลดและมีพิษต่อตับวิตามิน C โดยทั่วไปไม่มีพิษ แต่หากได้เกิน 1 กรัม จะทำให้เกิดคลื่นไส้ ท้องร่วง ตะคริวและเกิดนิ่วที่ไต ธาตุเหล็ก หากได้รับขนาดสูง จะระคายกระเพาะและท้องผูกรู้อย่างนี้แล้ว ก็ควรทานวิตามินให้พอเหมาะ จะได้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง.
spac_writeAd("/site=sanook.com/area=sanook.campus.teenzone/position=pos.center1/aamsz=text/method=jscript", 52);
ผลัดผิวสวย เรียบขาวโดยไม่ต้องทำศัลยกรรม www.sammiesandybeauty.com ขจัดฝ้า กระ สิว หลุมสิว แผลเป็น รอยแตกลาย ภายใน 3-7 วัน

วันพฤหัสบดีที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2552

เล็กๆ น้อยๆ กับคำว่า "ทำไมถึงไม่อ้วน



จิ๊กดีใจที่หลายคนมักชอบเดินมาทัก "คุณจิ๊กไปทำอะไรมาถึงได้หุ่นดีจัง ไม่อ้วนเลย ขนาดมีเจ้าตัวน้อยเดินตามติดๆ ถึง 2 คนแล้วนะเนี่ย"เมื่อก่อนจิ๊กไม่ได้คิดอะไรหรือต้องคอยระวังว่าควรจะทานอาหารอะไรดี เดี๋ยวอ้วนนะ จนเมื่อจิ๊กทำงานมากๆ จึงได้ศึกษาและมีความรู้ว่า ในผลไม้หลายอย่างมีสารอาหารที่สามารถทดแทนในสิ่งที่ร่างกายต้องการ ซึ่งสามารถทำให้ร่างกายแข็งแรง รวมถึงทำให้เราไม่อ้วนด้วยปกติจิ๊กก็เป็นชอบทานผลไม้อยู่แล้ว ไม่ค่อยทานขนมจุ๊บจิ๊บหรอก และบ่อยครั้งที่เวลาเกิดอาการหิวข้าวขึ้นมาก็มักนึกถึงผลไม้แทนอาหารซึ่งมีคุณค่าเหมือนกันหลายคนอาจจะไม่ทราบว่าผลไม้ที่เราชอบทานนั้นมีประโยชน์อะไร ในขณะที่เวลาจิ๊กชอบทานอะไรแล้วก็ต้องคอยดูเสมอว่าสิ่งที่เราทานนั้นมีประโยชน์เช่นไรบ้าง (คอนเซ็ปต์ส่วนตัวคือ ต้องอร่อย+อิ่ม+มีประโยชน์) ที่ชอบม๊ากมากเลย คือ "กล้วยน้ำว้า" ค่ะ ถึงขนาดต้องมีติดไว้ในห้องนอน และรถยนต์ ทานครั้งละ 2-3 ผล เวลาเกิดหิวขึ้นมาในชั่วโมงเร่งด่วน ที่ไม่สามารถจะมาเสียเวลานั่งรับประทานอะไรเป็นเรื่องเป็นราวได้จริงๆ กล้วยนั้นมีประโยชน์ตั้งแต่มันยังเขียวอยู่เลย กล้วยดิบเป็นยาแก้ท้องอืด ท้องขึ้น ส่วนผลที่สุกก็เป็นยาระบายได้อย่างดี และยังมีสารไฟเบอร์ (เส้นใยกากอาหาร) ซึ่งให้ผลดีหลายอย่างทางการแพทย์มีการวิจัยกันออกมาแล้วว่าสารไฟเบอร์นั้นมีผลในการลดคอเลสเตอรอล และลดการเสี่ยงจากมะเร็งหลายชนิด รวมถึงโรคหัวใจ และโรคเบาหวานด้วย เนื่องจากเมื่อมีสารไฟเบอร์มาก สารจะควบคุมน้ำตาลในเลือดให้เรานอกจากนี้ยังมีผลดีที่สำคัญมากๆ คือ ทำให้เราออกห่างจาก "โรคอ้วน" เพราะไฟเบอร์ที่ละลายจะเคลือบผิวกระเพาะอาหาร และทำปฏิกิริยากับกรด ทำให้เกิดสารเจลาติน ซึ่งทำให้รู้สึกอิ่มเร็วและอิ่มนาน ความอยากอาหารก็จะลดลง เป็นประโยชน์สำหรับคนที่มีน้ำหนักเกิน แค่นั้นยังไม่พอ (ขออีกนิดนะคะ) กล้วยยังมีสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายอีกหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นวิตามิน เกลือแร่ ฯลฯ จิ๊กทดลองกับตัวเองแล้วก็ได้ผลจริงๆ ไม่มีเซลลูไลท์ใดๆ หลงเหลืออยู่ในร่างกายเลย และไม่อ่อนเพลียผลไม้ที่จิ๊กชอบทานอีกอย่างก็คือ "แอปเปิ้ล" มีรสอร่อย และยังมีสารอาหารคล้ายๆ กันกับกล้วย แต่แอปเปิ้ลยังมีของดีอีกอย่าง คือสามารถชำระควัน หรือสารพิษที่เราได้รับจาควันรถยนต์ทุกวันด้วยแต่การจะทานผลไม้ให้ได้ผลดีที่สุด มันก็ต้องมีเคล็ดลับเหมือนกัน สำหรับเคล็ดลับพิเศษของจิ๊กนั้นก็คือเมื่อตื่นนอนขึ้นมาจิ๊กจะทานผลไม้เป็นอาหารมื้อแรก เพื่อเป็นการชำระสิ่งตกค้างหรือสารพิษ ซึ่งเกิดจากการรับประทานอาหารเมื่อวานนี้ จริงๆ แล้วจิ๊กเป็นทานอาหารมาก กินอย่างกับปล้นเลยทีเดียว ถ้าไม่เชื่อไปถามคนที่สนิทได้ แต่จะไม่เคยอึดอัด หรือท้องผูกเลยเนื่องจากใช้วิธีที่บอกส่วนเรื่องการออกกำลังกายมีผลหรือไม่ในการทำให้ไม่อ้วน จิ๊กก็ว่ามีส่วนเหมือนกัน เพราะร่างกายของเราได้นำสิ่งที่เราทานไปใช้ จึงไม่มีอะไรสะสมมากและทำให้ไม่อ้วนเลย การออกกำลังกายของจิ๊ก ไม่ได้เจาะจงว่าต้องออกเวลาไหน หรือไปนังฟิตเนสใด เพราะทุกวันจิ๊กจะออกกำลังกายตามธรรมชาติจริงๆ เช่น อุ้มลูกน้อยของจิ๊กค่ะ (ติดแม่จัง เดี๋ยวอุ้มหน่อยๆ)การขึ้นลงบันไดบ้านที่มีอยู่ 5 ชั้น วันละหลายรอบหลายครั้ง โดยไม่ใช้ลิฟต์ก็ได้ผลดีหลายข้อ ข้อแรกคือประหยัดไฟ (โครงการประหยัดพลังงานหาร 2) และข้อสองคือได้ต้นขาที่ FIT & FIRM ถ้าไม่เชื่อก็ต้องแอบดูขาจิ๊กเอาละกัน ที่สำคัญจิ๊กเป็นคนชอบทำงานลุยทุกที่ เพราะฉะนั้นจึงได้ออกกำลังกายอยู่ตลอดเห็นไหมคะว่าการจะมีรูปร่างดีได้นั้นไม่ใช่เรื่องยาก มีวิธีง่ายๆ เล็กๆ น้อยๆ ที่ทุกคนก็สามารถทำได้ แค่ลุกออกจากเก้าอี้มาทำอะไรที่เป็นประโยชน์ เช่น ปลูกต้นไม้ พรวนดิน รดน้ำ สักครึ่งชั่วโมงก็ถือว่าออกกำลังกายแล้วแต่ทำอย่างนี้ทุกวันอาจจะต้องระวัง ระวังแล้วกันถ้ามีคนทักคุณว่า "เธอทำอะไรมา ทำไมไม่อ้วนเหมือนเดิม" "เธอไปทำอะไรมาถึงหุ่นดีขึ้น"ระวังจะยิ้มรับไม่ทันค่ะ